จับ13นักท่องเที่ยวไทย ภายใน3อาทิตย์ ขนยาเสพย์ติดเข้าญี่ปุ่น!
จับ13นักท่องเที่ยวไทย ที่เดินทางมายังสนามบินนาริตะ เพื่อมาท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น ฐานลักลอบนำเข้ายาเสพย์ติด โดยแอบซ่อนมาในเสื้อผ้า หรือว่ากระเป๋าเดินทาง รวมแล้วทั้งสิ้น ถูกจับทั้งหมด 13 คน ภายใน 3 อาทิตย์!!
จากการสืบสวน พบว่า นักท่องเที่ยวที่ถูกจับทั้ง 13 คนนั้น มีอายุระหว่าง 20 – 50 ปี รวมปริมาณยาเสพย์ติด ที่ถูกตรวจพบ และยึดเป็นของกลาง ได้ทั้งสิ้น 13.9 กิโลกรัม รวมเป็นมูลค่ากว่า 8,900 ล้านเยน หรือประมาณ เกือบ 3 พันล้านบาทไทยทีเดียว
โดยมิจฉาชีพพวกนี้ ได้ใช้วิธีลักลอบ นำยาเสพย์ติดเข้ามาในประเทศญี่ปุ่น ด้วยวิธีแบบ 「Short gun」ซึ่งก็คือ การนำเอายาเสพย์ติด แบ่งกระจาย ให้มีปริมาณน้อย แต่ให้หลายๆคนถือเข้ามา เพราะเวลามากันเยอะๆ เจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถตรวจได้ทุกคน ซึ่งบางคนที่ถือ ก็ต้องมีคนรอด ออกมาได้!!
เรียกง่ายๆว่า คนที่ถูกจับนี่ ก็คือ “ทีมขน” มาเป็นทีม ขนเป็นแก๊งค์ โดย 2 คนที่ถูกจับในครั้งนี้ ก็เป็น 1 ในลูกทีม ที่เดินทางมาร่วมกับ ทัวร์ราคาถูก จากประเทศไทยอีกด้วย
ข่าวได้รายงานว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ เหตุผล ที่ทำให้มีการลักลอบนำเข้ายาเสพย์ติด จากประเทศไทยเข้าประเทศญี่ปุ่น เยอะขนาดนี้ก็เพราะว่า ญี่ปุ่นได้มีการลดหย่อนวีซ่า ให้คนไทย ที่จะเดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่น รวมถึง ราคาตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัด ราคาถูกทั้งหลาย ที่เพิ่มมากขึ้น
จากสถิติของปีที่แล้ว รวมแล้ว มีคนไทยมาญี่ปุ่น ทั้งสิ้น ประมาณ 987,000 คน ซึ่งนับว่าเป็น สถิติสูงสุด ที่เคยมีมาในประวัติการณ์ .. โดยหลังจากนี้ คาดว่า อาจจะมีการตรวจตรา ที่เข้มงวดเพิ่มขึ้น รวมถึงพวกมิจฉาชีพ ทั้งหลาย ที่พยายามแฝงตัวมาในทัวร์ ราคาถูก …